เผยรายละเอียดอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วครับสำหรับเครื่องเล่น PlayStation 5 Pro หรือรุ่นอัปเกรดของ PS5 ที่มีกำหนดวางจำหน่ายกันแบบรวดเร็วทันใจในเดือนหน้านี้แล้ว แต่แน่นอนว่ามือใหม่หลายคน คนที่กำลังวางแผนเปลี่ยนเครื่อง รวมไปถึงใครที่อยากจะย้ายค่ายจากรุ่นอื่น ก็คงจะเริ่มต้นกันไม่ถูกใช่ไหมครับว่าควรจะทำอะไรกันก่อนดี วันนี้ ThisIsGame Thailand ก็ไม่พลาดขอนำข้อมูลทุกอย่างมาเป็น One-stop แบบที่เดียวครบจบทั้งหมดทุกคำถาม
สเปคทั่วไปของเครื่องเล่นเกม PlayStation 5 Pro
PS5 Pro มาพร้อมกับ AMD Ryzen Zen 2 รุ่นปรับปรุงพร้อมตัวประมวลผลกราฟิกใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น 67% ช่วยเพิ่มแรงในการแสดงผลกราฟิก และ RAM 16GB ที่แม้จะมีขนาดเท่ากัน แต่ก็ช่วยรันเกมได้ดีเพราะมีความเร็วสูงขึ้น ทำให้โดยรวมจะสามารถรันเกมได้ดีขึ้นที่ 45% นอกจากนั้นก็จะมาพร้อมกับ SSD ขนาด 2TB เพิ่มจากรุ่นเดิมหนึ่งเท่าตัวให้สามารถเก็บไฟล์เกมได้มากขึ้น และสามารถถอดเปลี่ยนดัดแปลงได้ตามความต้องการ นอกจากนั้นตัวเครื่อง PS5 Pro จะเป็นรุ่นไร้แผ่น ดังนั้นเมื่อแกะกล่องออกมาก็จะรองรับประสบการณ์ดิจิทัลสำหรับดาวน์โหลดเท่านั้น แต่สามารถซื้ออุปกรณ์อ่านแผ่นในราคา 3,790 บาทมาใช้งานได้
ในส่วนอุปกรณ์ของแถมที่จะอยู่ในกล่องก็จะเป็นจอยเกม DualSense รุ่นมาตรฐานเทียบเท่ากันกับจอยเกมรุ่นหลักครับ ซึ่งเป็นจอยรูปแบบชาร์จมีความจุแบตเตอรีใช้งานได้สูงสุดที่ระหว่าง 6 – 7 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง จุดเด่นของจอยรุ่นนี้คือปุ่ม L2 และ R2 จะมีระบบเรียกว่า Adaptive Trigger ทำให้เกมที่รองรับสามารถโชว์แรงต้านได้ เช่นเกมยิงปืนที่อาจมีแรงเหนี่ยวไกปืนสัมผัสได้จริง เกมยิงธนูที่สัมผัสแรงตึงหย่อน รวมไปถึง Haptic หรือระบบสั่นของจอยที่ตอบสนองกับเหตุการณ์ในเกมที่รองรับ เช่นการวิ่งของตัวละครบนพื้นหญ้า พื้นถนน พื้นทราย ที่จะสั่นไม่เหมือนกัน ท้ายที่สุดเครื่องจะไม่มีฐานวางให้แล้วนะครับ
ถัดมากับสเปคเจาะลึกสักเล็กน้อย PS5 Pro จะสามารถรันภาพได้สูงสุดที่ 8K และให้เฟรมเรตสูงสุดที่ 120FPS ด้วยฟังก์ชันใหม่เรียกว่า PS5 Pro Enhanced ที่เป็นความสามารถในการรันเกมเดิมด้วยสเปคที่สูงขึ้น เช่น Resident Evil Village, Dynasty Warriors Origins, The Last of Us: Part II Remastered และอีกหลายเกมในอนาคต ส่วนอุปกรณ์รับสัญญาณอินเทอร์เน็ตมีสองรูปแบบคือช่องเสียบสาย LAN และตัวอ่าน WiFi 7 และเมื่อดูขนาดเครื่อง ความสูงคือ 10.4 เซนติเมตร และกว้าง 35.8 เซนติเมตร สามารถชมภาพเปรียบเทียบขนาดได้ข้างล่างนี้
เปรียบเทียบขนาดเครื่องจริงของ PS5 Pro และ PS5 (ซ้ายและขวา)
ฟีเจอร์พิเศษของ PlayStation 5 Pro ที่ไม่มีในรุ่นธรรมดา
PS5 Pro มาพร้อมกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่พัฒนาร่วมกันกับ AMD เจ้าของเทคโนโลยี FSSR ชื่อว่า PlayStation Spectral Super Resolution (PSSR) ที่คล้ายกัน โดยเป็นการใช้ AI ปรับความคมชัดให้สูงขึ้นโดยที่ไม่ต้องอาศัยการประมวลผลที่ยุ่งยาก และยังคงเฟรมเรตในระดับที่ราบรื่นได้ ตามมาด้วย Ray-tracing คุณภาพสูง ทำให้ภาพสะท้อนจากวัตถุหรือพื้นผิวเงาในเกมที่รองรับให้ภาพที่สมจริงมากขึ้น เช่นเดียวกับเอฟเฟกต์แสงที่สวยงามครับคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ราคา ข้อมูลและสเปคปัจจุบันของรุ่นธรรมดา เทียบกับ PlayStation Pro
เครื่องเล่นเกม PS5 ตัวธรรมดาจะมาพร้อมกับราคาที่ถูกกว่าคือเริ่มต้นที่ 15,690 บาทสำหรับรุ่นไร้แผ่น และ 18,690 บาท สำหรับรุ่นมีช่องอ่านแผ่น ขณะเดียวกันตัว PS5 Pro จะมีราคาอยู่ที่ 29,490 บาท และย้ำว่าเป็นรุ่นไร้แผ่นเพียงอย่างเดียว ซึ่งตัวธรรมดาใช้ CPU รุ่นเดียวกันแต่เป็นตัวที่ไม่ได้รับการปรับแต่ง ทั้งนี้ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานเริ่มต้น โดยเกมส่วนใหญ่จะรองรับการใช้งานที่ Checkered 4K/60FPS (4K ที่อาจปรับลดความละเอียดตามสถานการณ์ในเกม) หรือ Native 4K/30FPS (4K แท้ที่เรนเดอร์ภาพด้วยความละเอียดสูงสุดตลอดเวลา) ขณะที่ PS5 Pro จะมีเกมที่เป็น Native 4K/60FPS ที่มีความคมชัด และในส่วนเนื้อที่ติดตั้งเกมรุ่นธรรมดาจะอยู่ที่ 1TB และมาพร้อมจอย DualSense รุ่นมาตรฐานหนึ่งชิ้นครับ
หากจะถามว่าควรซื้อ PS5 Pro หรือไม่ ดีหรือไม่ก็จะขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งาน โดย PlayStation 5 รุ่นมาตรฐานถือว่าเป็นเครื่องเกมที่มีความสามารถในการประมวลผลในระดับที่ยอดเยี่ยมและสูงกว่าเครื่องเล่นคอนโซลรุ่นอื่นในตลาดอย่าง Xbox Series S และ Nintendo Switch อีกทั้งรองรับการใช้งานอุปกรณ์เสริมที่หลากหลายเพื่อประสบการณ์ที่ดี แต่สำหรับใครที่ต้องการการเล่นเกมในรูปแบบที่พรีเมียมมากขึ้น เช่นภาพคมชัด ใช้สเปคโทรทัศน์แบบเต็มที่ ก็สามารถอัปเกรดเครื่องเป็นรุ่น Pro ได้เพื่อการเล่นที่เต็มอิ่มกว่าเดิม โดยไม่ต้องกังวลว่าสเปคที่สูงขึ้นจะทำให้คอนเทนต์ของเกมที่ได้รับนั้นแตกต่างกันเพราะไม่ว่าอย่างไรทุกเกมยังคงให้ความสำคัญกับเครื่องเล่นมาตรฐานเป็นหลักอยู่แล้ว
บริการเสริมและอุปกรณ์เสริมที่ควรรู้
PlayStation Plus คืออะไร
บริการเสริมรายเดือนที่จะปลดล็อกระบบการใช้ Cloud Saving สำหรับการถ่ายโอนไฟล์เซฟสู่เซิร์ฟเวอร์อินเทอร์เน็ต, การเข้าเล่นเกมออนไลน์ และโปรโมชั่นลดราคาเกม เช่นเดียวกับการแจกไอเทมพิเศษสำหรับบางเกม และในทุกเดือนจะมีเกมแจกฟรีเพื่อเพิ่มรายชื่อเข้าสู่บัญชี เกมเหล่านี้จะมีสถานะเป็นเกมเต็มที่เราเล่นได้ตลอดไปตราบสิ้นอายุสมาชิก หากจะยกเลิกแล้วสมัครใหม่ก็สามารถเล่นได้
โดยในประเทศไทยจะแบ่งออกเป็นสามระดับขั้นคือ Essential ที่มาพร้อมสิทธิ์ข้างต้น ต่อมาคือ Extra ที่จะเพิ่มคลังเกม PS4 – PS5 ให้ดาวน์โหลดเพิ่มเติมคล้ายคลัง Netflix แบบเกมที่หมุนเวียนเกมใหม่ในทุกๆ เดือน และขั้นสุดท้ายคือ Deluxe ที่เป็นสมาชิกราคาสูงที่สุดจะเพิ่มเกมจากเครื่องเล่น PS1, PS2 และ PSP ให้เล่นด้วย ท้ายที่สุดจะมีระบบ Game Trials ที่ให้ผู้เล่นลองเล่นเกมใหม่ๆ ได้ 2 – 6 ชั่วโมง
ทั้งหมดทั้งปวงแล้ว หากต้องการซื้อเกมออนไลน์ จำเป็นต้องสมัครสมาชิก PlayStation Plus ขั้นต่ำเป็นระดับ Essential ด้วยนะครับ แต่สำหรับเกมออนไลน์ที่เราดาวน์โหลดได้ฟรี อาทิ Fortnite, Roblox หรือ Genshin Impact สามารถเข้าเล่นได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินค่าสมาชิก
ราคาของ PlayStation Plus (1 เดือน, 3 เดือน และ 12 เดือน)
Essential: 240 บาท, 560 บาท และ 1,830 บาท
Extra: 360 บาท, 920 บาท และ 3,070 บาท
Deluxe: 420 บาท, 1,060 บาท และ 3,530 บาท
PlayStation VR2 คืออะไร
แว่นตา VR สำหรับเล่นเกมแบบสมจริง มาพร้อมการรองรับการให้ภาพสูงสุดที่ 4K ประยุกต์ด้วยเทคโนโลยีสีสันสดใส HDR โดยหน้าจอของเลนส์ทั้งสองฝั่งมีวัสดุเป็น OLED ความละเอียด 2000×2040 และเฟรมเรต 90/120Hz นอกจากนี้เมื่อใช้ร่วมกับ PS5 บริเวณแว่นจะมีกล้องที่สามารถติดตามคอนโทรลเลอร์และการเคลื่อนไหวของตัวผู้ใช้งาน อีกทั้งยังมี 3D Audio ติดตั้งมาให้
การใช้แว่นนี้จะต้องควบคุมด้วย PS VR2 Sense Controller ที่มีจะมีรูปทรงเป็นวงกลมและด้ามจับคล้ายกับ Oculus Touch โดยด้านซ้ายมี Create, สามเหลี่ยม, สี่เหลี่ยม และ L1 กับ L2 เช่นเดียวกับอนาล็อก ในขณะที่ด้านขวาจะเป็นปุ่ม Option, วงกลม, กากบาท, R1, R2 และอนาล็อก ซึ่งทั้งสองข้างมีปุ่ม PS ไว้เข้าสู่หน้าจอโฮม เชื่อมต่อกับแว่นตาและเครื่องเกมด้วย Bluetooth 5.1 รองรับการชาร์จไฟผ่านพอร์ตUSB-C ส่วนเทคโนโลยี Haptic Feedback และ Adaptive Trigger จากจอยเกม DualSense จะมีใส่มาเพื่อเพิ่มอารมณ์ร่วมด้วยเช่นกัน ปัจจุบันจำหน่ายแล้วในราคา 22,190 บาท
DualSense Edge คืออะไร
จอยเกมรุ่นพิเศษที่เป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนที่เบื่อจอยแบบเดิมๆ และอยากลองปรับแต่งให้เข้ากับสไตล์การเล่นแบบเต็มที่ แถมการออกแบบรุ่น Edge ยังโฉบเฉี่ยวให้ความรู้สึกที่เหนือชั้นและเต็มไปด้วยฟังก์ชั่นเจ๋งๆ มากมาย ภายในชุดมาพร้อมกับชิ้นส่วนสำหัรบสับเปลี่ยนตามรูปแบบการเล่น เช่นระดับการสั่น การล็อกปุ่มสำหรับนิ้วต่างๆ มีราคาจำหน่ายที่ 7,790 บาท
PlayStation Portal คืออะไร
อุปกรณ์นี้จะมีลักษณะเป็นเครื่องเกมพกพาคล้ายกับจอยเกม DualSense ที่แบ่งออกเป็นสองฝั่งโดยมีหน้าจอขนาด 8 นิ้ว รองรับความละเอียด 1080p และเฟรมเรต 60FPS ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับการเล่นเกมพกพาในปัจจุบัน และแน่นอนว่าฟีเจอร์สำคัญอาทิ Adaptive Trigger และ Haptic Feedback ที่เป็นลูกเล่นระบบสั่นก็ได้รับการประยุกต์เข้ามาเช่นกัน ดังนั้นใครที่อยากนำเกม PS5 ออกไปเล่นนอกบ้านโดยไม่อาศัยสมาร์ทโฟนขอบอกว่าน่าสนใจสุดๆ
เครื่องเล่นนี้จะอาศัยการเชื่อมต่อกับ PlayStation 5 ที่บ้านเราผ่าน WiFi และสตรีมสัญญาณเข้าสู่หน้าจอพกพา รองรับการใช้งานเกมทั้ง PS5 – PS4 ยกเว้นเพียง PS VR2 เท่านั้น เล่นเกมกันได้แบบไม่ต้องง้อโทรทัศน์ หรือหากมีสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วมากพอ ก็เชื่อมต่อกับจุดส่งสัญญาณนอกบ้านเพื่อเล่นเกมเวลาไปข้างนอกได้เหมือนกันครับ ในส่วนของราคาจะอยู่ที่ 7,790 บาทเท่านั้น
รายชื่อตัวแทนจำหน่าย (ขอบคุณข้อมูลจาก Sony ประเทศไทย)
- Sony Store Online (>>คลิก<<)
- AIS Store (>>คลิก<<)
เกี่ยวกับเครื่องเล่นเกม และกำหนดสั่งจอง – จำหน่าย
PlayStation 5 Pro มีราคาเริ่มต้นที่ 29,490 บาท
สามารถสั่งจองล่วงหน้าได้แล้ววันนี้ และจะมีกำหนดขาย – จัดส่งตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป
Playstation 5 Pro PS5 Pro